การออกแบบชุดทดลองคัดแยกสีอัตโนมัติบนระบบสายพานลำเลียง โดยโมดูลแยกสี

ผู้เขียนบทความ : นางสาวกัลยาวดี ชูจรูญเดช , นายชนทัต ดำนุ่น , นายภควรรษ เอียดพวง

COE15

คณะวิศวกรรมศาสตร์ : สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์

วิชา:04-513-201 การโปรแกรมคอมพิวเตอร์ขั้นสูง 1/2566

1.ความเป็นมา

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการออกแบบและทดลองการใช้ชุดทดลองคัดแยกสีวัตถุอัตโนมัติ บนสายพานลำ เลียงด้วยบอร์ดโมดูลแยกสีอาดูโน สามารถปฏิบัติงานได้ตามการออกแบบให้แยกชนิดวัตถุที่ เป็นสีแดง สีเขียว และสีนํ้าเงิน แล้วเคลื่อนย้ายวัตถุอัตโนมัติไปยังที่กำ หนดไว้โดยอาศัยการควบคุมของ ESP32 NodeMCU โดยใช้ตัวตรวจจับด้วยโมดูลแยกสี Arduino TCS230 เป็นเซนเซอร์อ่านค่าปริมาณของ ความเข้ม ของแสงที่กระทบกับวัตถุและสะท้อนกลับมายังเซนเซอร์แปลผลเป็นสัญญาณที่แตกต่างกันตามแต่ละสี ของวัตถุ นอกจากนี้งานวิจัยสามารถนำ เอาไปใช้เป็นพื้นฐานในการฝึกปฏิบัติ เพื่อนำ ไปใช้เป็นแนวทางกับโรงงาน อุตสาหกรรมประเภทงานแยกวัตถุในการผลิตเพื่อจำแนกวัตถุสีได้ตามที่โปรแกรมสั่งงานและสามารถนำ ไปใช้ใน โรงงานสิ่งพิมพ์ โรงงานผลิตรถยนต์ โรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงระบบการเคลื่อนที่อัตโนมัติอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลการออกแบบและทดลองใช้ชุดทดลองคัดแยกสีวัตถุอัตโนมัติบนสายพานลำเลียงด้วยบอร์ดโมดูลแยกสีอาดูโนพบว่า สามารถคัดแยกวัตถุสีแดง สีเขียว และสีนํ้าเงิน โดยใช้เวลาเฉลี่ยของวัตถุที่ทดสอบปรากฏ ว่าวัตถุสีแดง 9.75 วินาที วัตถุสีเขียว 9.96 วินาที และวัตถุสีนํ้าเงิน 9.95 วินาที และสามารถแยกสีวัตถุลงใน ตำแหน่งที่ต้องการได้ถูกต้อง คำสำคัญ: การคัดแยกวัตถุสีอัตโนมัติ , ชุดทดลองแยกวัตถุสี

2.วัตถุประสงค์

2.1 เพื่อออกแบบชุดทดลองคัดแยกสีอัตโนมัติ บนระบบสายพานลําเลียงโดยโมดูลแยกสี

2.2 เพื่อทดลองการใช้ชุดทดลองคัดแยกสี อัตโนมัติบนระบบสายพานลําาเลียงโดยโมดูลแยกสี

3.ขอบเขต

3.1 สามารถแยกวัตถุสีได้ ถ้าวัตถุเป็นสีที่ไม่ใช่สีที่ต้องการเครื่องจะดีดวัตถุออก

3.2 สามารถนันจำนวนของวัตถุได้

3.3 แสดงผลผ่านแอพBlynk

4.ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

4.1ได้ศึกษาและเข้าใจการเขียนโปรแกรมภาษา Python เพื่อสร้างระบบ
4.2 สามารถนำความรู้การเขียนโปรแกรมภาษา Python ไปประยุกต์ใช้ได้จริง
4.3 สามารถเขียนโปรแกรมภาษา Python เพื่อสร้างระบบ

5.ความรู้ที่เกี่ยวข้อง

5.1 ESP 32

ในโค้ดนี้:

  1. เราใช้ไลบรารี WiFi.h เพื่อทำการติดต่อกับเครือข่าย Wi-Fi.
  2. คุณต้องปรับค่า ssid และ password เพื่อให้เข้ากับเครือข่าย Wi-Fi ของคุณ.
  3. ใน setup() เราทำการเชื่อมต่อ Wi-Fi และรอจนกว่าจะเชื่อมต่อเสร็จสิ้น แล้วแสดง IP Address บน Serial Monitor.
  4. ใน loop() คุณสามารถเพิ่มโค้ดที่คุณต้องการรันตลอดเวลา เช่น การควบคุมอุปกรณ์หรือส่งข้อมูลผ่าน Wi-Fi.

โปรแกรมนี้เป็นแค่ตัวอย่างเบื้องต้นเพื่อเริ่มต้นกับ ESP32 คุณสามารถเพิ่มฟังก์ชันและโค้ดเพิ่มเติมตามความต้องการของคุณได้ในส่วน loop() และ setup() ของโค้ด.

5.2 เซนเซอร์ตรวจจับสี RGB Color TCS230

ในโค้ดนี้:

  1. เราใช้ Adafruit_TCS34725 ไลบรารีเพื่อควบคุมเซนเซอร์สี TCS230.
  2. เรากำหนดขา SDA_PIN และ SCL_PIN เพื่อกำหนดขาการเชื่อมต่อ I2C สำหรับ ESP32.
  3. ในฟังก์ชัน setup(), เราตั้งค่าเซนเซอร์สี TCS230 โดยใช้ค่าค่าการรวมของแสงและการเพิ่มแสง.
  4. ในฟังก์ชัน loop(), เราอ่านค่าแสงแดง (red), สีเขียว (green), และสีน้ำเงิน (blue) จากเซนเซอร์แล้วคำนวณอุณหภูมิสีและค่า Lux.
  5. ผลลัพธ์จะถูกส่งไปยัง Serial Monitor เพื่อแสดงผล.

โปรแกรมนี้ใช้งานเซนเซอร์สี TCS230 และนำผลลัพธ์ไปแสดงผลผ่าน Serial Monitor บน Arduino IDE เพื่อควบคุมการตรวจจับสี RGB และอุณหภูมิสีของเซนเซอร์นี้. ตรวจสอบการติดตั้ง Adafruit TCS34725 ไลบรารีและขาการเชื่อมต่อ I2C กับ ESP32 ให้แน่ใจว่าถูกต้องและเชื่อมต่ออย่างถูกต้องก่อนใช้งานโค้ดนี้.

5.3 เซ็นเซอร์นับจำนวน Counter 0-999999 12Vdc

ในโค้ดนี้:

  1. เรากำหนดค่า maxCount เป็น 999999 เพื่อกำหนดจำนวนสูงสุดที่เครื่องนับจะนับถึง.
  2. เราใช้ตัวแปร count เพื่อเก็บค่านับปัจจุบันและเริ่มต้นที่ 0.
  3. ใน setup(), เราเริ่มต้นการสื่อสารผ่าน Serial Monitor ที่อัตราเร็ว 9600 bps.
  4. ใน loop(), เราตรวจสอบว่าค่านับ count ยังไม่เกิน maxCount หากเป็นเช่นนั้นจะแสดงค่านับปัจจุบันและเพิ่มค่า count ขึ้น 1. เมื่อ count เท่ากับ maxCount เราจะแสดงข้อความ “เครื่องนับถึงจำนวนสูงสุด” และรอ 1 วินาทีก่อนที่จะรีเซ็ตค่า count เป็น 0.

โปรแกรมนี้จะทำให้ ESP32 นับจำนวนอัตโนมัติจาก 0 ถึง 999999 และเมื่อถึงจำนวนสูงสุดจะรีเซ็ตค่านับและเริ่มนับใหม่. ค่านับปัจจุบันจะถูกแสดงผ่าน Serial Monitor ของ ESP32.

5.4 power supply 5v3A

การจ่ายไฟฟ้าที่มีความต่ำในระดับแรงดัน ในกรณีนี้คือ 5 โวลต์ และกระแสไฟฟ้าที่มีความสามารถในการให้กระแสไฟฟ้าได้ต่อเนื่องที่ระดับ 3 แอมป์ (อัมแพร์) ซึ่งหมายถึงความสามารถในการให้กระแสไฟฟ้าต่อเนื่องขนาด 3 แอมป์ที่แรงดันไฟฟ้าความสามารถของหน่วยจ่ายไฟฟ้านี้คือ 5 โวลต์และ 3 แอมป์ นี้มักใช้ในอุปกรณ์และโครงการอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาต้องการแหล่งจ่ายไฟฟ้า 5 โวลต์ดีซีที่มีความสามารถในการทำงานอย่างน่าเชื่อถือที่มีความจุปัจจุบันเพียงพอ

นี่คือตัวอย่างใช้หน่วยจ่ายไฟฟ้า 5 โวลต์ 3 แอมป์:

  1. ไมโครคอนโทรลเลอร์และบอร์ดการพัฒนา: ไมโครคอนโทรลเลอร์หลายรุ่น เช่น บอร์ด Arduino และ Raspberry Pi ทำงานที่แรงดัน 5 โวลต์และต้องการแหล่งจ่ายไฟฟ้าที่เสถียรเพื่อให้ทำงานได้อย่างถูกต้อง
  2. แถบ LED: แถบ LED RGB ที่สามารถตั้งค่าสีได้บางชนิดอาจต้องการหน่วยจ่ายไฟฟ้า 5 โวลต์เพื่อให้ทำงานและสามารถบริโภคกระแสไฟฟ้าในปริมาณต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับจำนวนของแถบ LED
  3. อุปกรณ์ USB: บางอุปกรณ์ USB อาจต้องการแหล่งจ่ายไฟฟ้า 5 โวลต์ที่เฉพาะเจาะจงเมื่อพวกเขาดูเจียวกระแสไฟฟ้ามากกว่าที่พอให้ (ซึ่งมักเป็นปริมาณไฟฟ้าสูงสุด 0.5 แอมป์หรือ 1 แอมป์)
  4. มอเตอร์ขนาดเล็กและอ็อกจูเอเตอร์: มอเตอร์ขนาดเล็กบางรุ่นและอ็อกจูเอเตอร์ที่ใช้ในโครงการหุ่นยนต์หรือโครงการอัตโนมัติอาจต้องการหน่วยจ่ายไฟฟ้า 5 โวลต์
  5. การชาร์จอุปกรณ์มือถือ: หน่วยจ่ายไฟฟ้าที่มีพอร์ต USB มักถูกใช้ในการชาร์จสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอุปกรณ์ USB อื่น ๆ

เมื่อเลือกหน่วยจ่ายไฟฟ้า ควรพิจารณาทั้งแรงดันและความจุปัจจุบันที่อุปกรณ์ของคุณต้องการ แรงดันควรตรงกับความต้องการของอุปกรณ์ และความสามารถในการให้กระแสไฟฟ้า (ในกรณีนี้ 3 แอมป์) ควรเท่ากับหรือมากกว่าที่อุปกรณ์ต้องการเพื่อให้ทำงานอย่างเสถียรและเชื่อถือได้. การใช้หน่วยจ่ายไฟฟ้าที่มีความสามารถให้กระแสไฟฟ้าสูงกว่าที่ต้องการโดยทั่วไปปลอดภัย โดยอุปกรณ์จะดึงกระแสไฟฟ้าเพียงในปริมาณที่ต้องการเท่านั้น.

5.5 จอ LCD 16*2 I2C

ในโค้ดนี้:

  1. เรารวมไลบรารี Wire.h เพื่อใช้สื่อสารผ่าน I2C และ LiquidCrystal_I2C.h เพื่อใช้ควบคุมจอ LCD 16×2.
  2. เรากำหนดที่อยู่ I2C ของจอ LCD ใน LiquidCrystal_I2C constructor (ในที่นี้ใช้ 0x27 แต่ของคุณอาจแตกต่างกันไป).
  3. ใน setup(), เราเริ่มต้นสื่อสารผ่าน I2C และเริ่มต้นจอ LCD โดยใช้ init() และเปิดไฟพื้นหลังบนจอ LCD ด้วย backlight().
  4. เราใช้ setCursor() เพื่อตั้งค่าตำแหน่งและแสดงข้อความบนจอ LCD 16×2 ในตัวอย่างนี้เราแสดง “Hello,” บนแถวแรกและ “World!” บนแถวที่สองของจอ LCD.
  5. การรหัสของคุณสามารถใส่ไว้ใน loop() เพื่อให้ทำงานตลอดเวลาหรือตามความต้องการของโปรเจกต์ของคุณ.

5.6 ชุดสายพาน

ชุดสายพาน (Cable Management Kit) เป็นชุดอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดการสายไฟหรือสายสื่อสารในที่ทำงานหรือโครงการที่มีการเชื่อมต่อหลายสาย โดยวัตถุประสงค์หลักคือเพื่อให้สายไม่เดินไปตามแท่นที่และมีการจัดเก็บที่เรียบร้อย เพื่อป้องกันสายจากการปูดหรือขาดสัญญาณ และทำให้ง่ายต่อการดูแลรักษาและการเปลี่ยนแปลง.

ชุดสายพานอาจประกอบด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีในบรรจุภัณฑ์เดียว หรือคุณสามารถซื้อชิ้นส่วนแยกต่าง ๆ ตามความต้องการของคุณ เช่น:

  1. ตลับสาย (Cable Sleeves): สามารถเป็นท่อพลาสติกหรือผ้าพันสายที่ใช้ใส่สายเพื่อรวมสายเข้าด้วยกันและช่วยป้องกันการเสียสัญญาณหรือการขาดสาย.
  2. หางจับสาย (Cable Ties): มักเป็นเครื่องมือเสริมที่ใช้รัดสายให้แน่นและเรียบร้อย. มีหลายรูปแบบ ที่ใช้งานง่ายและสามารถปลดได้.
  3. พิวเตอร์สาย (Cable Organizers): สามารถเป็นส่วนหนึ่งของโต๊ะหรืออุปกรณ์เก็บของที่มีช่องที่ใช้ใส่สายไฟเพื่อที่จะลองเก็บและป้องกันสายได้อย่างเรียบร้อย.
  4. สายแนวนอน (Raceways): คล้ายกับพิวเตอร์สายแต่มีโครงสร้างที่สามารถปิดบนผนังหรือพื้น.
  5. แท็บเล็ตขั้นตอน (Cable Clips): คลิปที่ใช้เก็บสายไฟในตำแหน่งที่แน่นหนา โดยที่ไม่ต้องเจาะผนัง.

การใช้ชุดสายพานช่วยลดความรกในสายและทำให้ห้องหรือพื้นที่ทำงานดูเรียบร้อยและสะดวกในการเคลื่อนย้ายและบำรุงรักษาสายไฟและสายสื่อสารต่าง ๆ ในโครงการ

6.การออกแบบ

6.1การออกแบบโครงสร้างชุดทดลองคัดแยกสีอัตโนมัติบนระบบสายพานลำเลียงโดยโมดูลแยกสี

การออกแบบโครงร่างของชุดทดลองคัดแยกสีอัตโนมัติบนระบบสายพานลำเลียงโดยโมดูลแยกสี โดยการออกแบบนั้นจะออกชิ้นงานมีเครื่องจะมี

ขนาด 24 x 48 x 30 cm. โดยมีลักษณะเป็นสายพานลำเลียงเพื่อทำหน้าที่ขนส่งสินค้า และใช้ RGB Color Sensor Module ในการแยะสินค้า และ ใช้ Proximity Sensor ในการนับจำนวนสินค้า โดยมีแหล่งจ่ายหลักที่ให้แรงดันไฟฟ้า 12V มีสวิตช์ทำหน้าที่เปิด-ปิด และมี Lcd ขนาด 16×2 ทำหน้าที่แจ้งจำนวนของปริมาณสินค้า

7.การออกแบบวงจรและสร้าง

           7.1 การเชื่อมต่อของอุปกรณ์ 1บทความนี้จะกล่าวถึงการออกแบบระบบการทำของระบบ ด้วยการนำ ESP32 เข้ามาประยุกต์ใช้งาน ทำหน้าที่เป็นหน่วยประมวลผลหลัก โดยจะรับค่าจาก Color Sensor Module และ Proximity Sensor ทำหน้าที่แยกสินค้าโดยใช้ Servo และนับจำนวน โดยทั้งจะจำนวนของสินค้าไปแสดงผลที่ Lcd ขนาด 16×2 และเชื่อมต่อร่วมกับดีเลย์เพื่อสั่งงานให้มอเตอร์ทำงานเมื่อเครื่องเริ่มทำงาน

7.2การออกแบบวงจร เมื่อได้แบบแผ่นวงจรนำไปปริ้น และนำแผ่นทองแดงสำหรับทำแผ่นวงจร โดยที่เราต้องกำหนดขนาดแผ่นทองแดงของเราให้ตรงตามขนาดแผ่นวงจรPCB จากนั้นนาบกับแผ่นกระดาษที่ปริ้นรูปแผ่น PCB แล้วนำเตารีดใช้ความร้อนสูงสุดรีดลงบนกระดาษ ใช้เวลาในการรีด10-15นาที เมื่อสังเกตว่ากระดาษติดกับแผ่นทองจนสนิทแล้ว ค่อยๆดึงออก เมื่อน้ำหมึกติดบนแผ่นทองแล้ว จากนั้นนำแผ่นทองแดงใส่ในภาชนะที่ใส่น้ำยากัดแผ่นปริ้นผสมกับน้ำใส่แค่พอจมแผ่นทองแดง ใช้วิธีการตะแคงมาหลายๆครั้ง หรือจะใช้เครื่องตะแคงไปเรื่อย จนกว่าจะเหลือแค่ลายปริ้น เมื่อทำการกัดลายเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะเหลือเพียงเส้นที่เป็นน้ำหมึก จากนั้นทำการใช้ทินเนอร์ หรือน้ำยาล้างเล็บเพื่อล้างน้ำหมึกออก ให้เหลือแค่เส้นทองแดงเพื่อทำการต่อกับอุปกรณ์ภายนอกเมื่อล้างน้ำหมึกบนแผ่นวงจรพิมพ์เสร็จแล้วขั้นตอนต่อไปคือการเจาะรูสำหรับติดตั้งอุปกรณ์บนแผ่นวงจรพิมพ์โดยใช้สว่านขนาด 0.8 มม. และ 1.1 มม. จากนั้นบัดกรีบนแผ่นวงจรกับ terminal เพื่อติดตั้งอุปกรณ์ของเรา เมื่อทำการบัดกรีเข้ากับแผ่นวงจรเสร็จเรียบร้อย ต่อไปทำการเคลือบแผ่นทองแดงเผื่อไม่ให้เส้นทองแดงหลุด และป้องกันสนิมขึ้นทีบนทองแดง ขั้นตอนสุดท้ายในการสร้างแผ่นวงจร คือการตรวจเช็ควงจรถูกต้องหรือไม่ ด้วนการใช้มิเตอร์วัดไฟ เมื่อทำการตรวจวงจรถูกต้องเรียบร้อยก็ไห้ทำการติดตั้งและเชื่อมต่อวงจรไปยังอุปกรณ์ที่อยู่ภายในกล่องควบคุม

7.3การประกอบอุปกรณ์ควบคุมในกล่องและประกอบกล่อง

อุปกรณ์ติดตั้งด่านในกล่องวงจร       ขั้นตอนที่1 ติดตั้ง Esp32 เข้ากับแผ่นวงจรและเจาะรูให้กับแหล่งจ่ายไฟเข้ากับด้านข้างของกล่อง จากนั้นขันน็อตล้อคไว้ให้แน่นพอสมควรโดยน็อตที่ใช้ในการยึดกับอุปกรณ์ต่างๆบนแผ่นรองใช้น็อต m3 12mm. ตามด้วยใช้สายรัดเก็บสายไฟให้เรียบร้อย

ขั้นตอนที่2 เจาะกล่องด้านข้างเป็นทางเดินสายไฟของแหล่งจ่ายไฟ โดยจะวางตำแหน่งต่างๆก่อนเจาะ จากนั้นทำการต่อสายไฟเข้ากับอุปกรณ์ทั้งหมดที่อยู่ในกล่องวงจร

        ขั้นตอนที่3 เมื่อทำการเชื่อมสายต่อเข้ากับอุปกรณ์ทั้งหมดแล้ว นำสายไฟที่ต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ แผ่นรอง ยึดติดกับกล่องวงจร ทำการเจาะรูสายไฟออก เก็บสายไฟให้เป็นระเบียบ

7.4 การติดตั้งเครื่องสานพาน

ขั้นตอนที่1วางตำแหน่งของมอเตอร์ ตัวขับสายพานหน้าหลัง หาระยะห่างจากนั้นนำตัวเพลาขับสายพานลงไปติดตั้งบนฐานของชิ้นงาน วัดระยะเพื่อไม่ไห้สายพานตึงเกินไป

         ขั้นตอนที่ 2 ทำการวัดความยาว ความสูง ของชุดสายพานเพื่อทำฝาครอบโดยฝาครอบปิดด้านซ้าย-ด้านขวา-ด้านบน เจาะรูด้านหน้าชองฝาครอบเพื่อใช้สำหรับวัตถุผ่านมาทางสายพาน

         ขั้นตอนที่3 ขันยึดจุดต่างๆโดยใช้เป็นน็อตเกลียวปล่อยและเกลียวละเอียด ขนาด 0.8mm. จากนั้นนำสายพานขับเฟืองเชื่อมระหว่างแกนมอเตอร์และแกนขับสายพาน

         ขั้นตอนที่4 สร้างตัวรองสายพานขึ้นมาพยุงด้านใต้สายพานเพื่อป้องกันไม่ไห้สายพานหย่อนเกินไป          ขั้นตอนสุดท้าย นำฝาครอบชุดสายพานยึดด้วยน็อตกับฐานของชินงานพอตึงมือ จากนั้นนำสายไฟต่อเข้ากล่องวงจรจัดเรียงสายไฟให้เรียบร้อย

8 การทดสอบการทำงานของระบบ

          การทำงานของระบบนี้ จะอธิบายเกี่ยวกับการทำงานของระบบการหมุนของสายพานและการทำงานระบบเซ็นเซอร์ RGB การนับจำนวนและ Servo

8.1 RGB Code

โมดูลวัดค่าสี RGB Color Sensor (TCS230/TCS3200) เซนเซอร์แยกสี ใช้แยกว่าสีที่อยู่หน้าเซนเซอร์นี้เป็นสีอะไร เอาต์พุตที่อ่านได้ ออกมาเป็นค่า R G B ใช้งานง่าย มีไฟ Flash สำหรับตรวจจับสีวัตถุในที่มืด สามารถสั่งควบคุมเปิดปิดไฟได้จากในโคดโปรแกรม พื้นหลังเป็นสีขาวมีกระบอกพลาสติกสีดำ กันไม่ให้สีอื่นไปรบกวน ไม่ต้องหาต่อที่กั้นแสงเพิ่มขาที่ใช้การสั่งงานคือ

ESP32 NodeMCU 38p ESP-32 CP2102-> TCS230/TCS3200
            • 5V -> VCC
            • 35 -> S1
            • 34 -> S0
            • GND -> GND
            • 25 -> S3
            • 33-> S2
            • 26-> LED
            • 32 -> OUT

โคดตัวอย่าง ดังภาพ

8.2Infrared Proximity Sensor Code  Infrared Proximity Sensor  เป็นเซนเซอร์ตรวจจับวัตถุที่ใช้หลักการสะท้อนของคลื่นอินฟาเรด สามารถกำหนดระยะในการทำงานได้โดยปรับค่าที่ Potentiometer ตรวจจับวัตถุได้ในช่วง  3-80cm โคดตัวอย่าง ดังภาพ

9. ปัญหาในการทดลอง

    ปัญหาในการทดลองพบยังมีค่าที่ออกมาจากเซ็นเซอร์สียังมีค่าผิดพลาดในการทดลองสี และยังพบว่าเซ็นเซอร์การนับจำนวนยังมีค่าที่เกินว่าที่กำหนดไว้ไม่ตรงตามที่ต้องการ แต่โดยรวมตัวเครื่องสายพานและServoทำงานได้ปกติตามที่ต้องการ

10. ผลการทดลองการทำงาน

     ผลการทดลองการทำงานของชุดจำลองเครื่อง คัดแยกสีอัตโนมัติพบว่าสามารถคัดแยกวัตถุที่เป็นสีแดง สีเขียว สีน้ำเงินและสีอื่นๆ ได้ และสามารถหมุนถาดเพื่อ รับวัตถุในตำแหน่งที่ต้องการได้ถูกต้อง โดยตัวอาดูโน สามารถท างานได้ตามโปรแกรมอย่างถูกต้อง จากการ ทดลองสรุปได้ว่าการทำงานใน 1 รอบการทำงาน (1 Cycle) จะพบเวลาเฉลี่ยของวัตถุที่ทดสอบ วัตถุสีแดง 9.96 วินาทีวัตถุสีเขียว 13.47 วินาทีวัตถุสีน้ำเงิน 16.58 วินาทีและวัตถุอื่นๆ 9.04 วินาที ซึ่งน้ำหนักไม่มี ผลต่อการเคลื่อนที่ของชุดสายพานแต่จะขึ้นอยู่กับ ระยะทางหมายความว่าถ้าออกแบบความยาวของ สายพานมากขึ้นระยะเวลาเฉลี่ยในการคัดแยกวัตถุสีจะ เพิ่มขึ้นตาม การวางเซนเซอร์พื้นผิวสีให้เหมาะสมกับ การสะท้อนออกมาของวัตถุและในส่วนของโปรแกรมที่ นำมาควบคุม

You may also like...

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *